Thursday, September 14, 2006

หนึ่งวันธรรมดา

อาชีพในฝัน

หากจะมีอาชีพใดถือปฏิสนธิขึ้นมาในยุคสมัยแห่งความรีบเร่งเฉกเช่นทุกวันนี้แล้วล่ะก็ ผมคิดว่าอาชีพ "คนกลางติดต่อธุรกรรม" ทั้งต่อหน่วยงานของหลวง,หน่วยงานของราษฎร์ และหน่วยงานของหลวงกึ่งราษฎร์(ที่มีคนพยายามจะขายทอดตลาด) น่าจะเวิร์คที่สุด

ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุให้ต้องขับรถเข้า-ออกตัวเมืองเป็นว่าเล่น เพื่อรวบรวมเอกสารสำคัญต่างๆสำหรับยื่นทำ วีซ่า เข้าประเทศสหรัฐอเมริกา และเอกสารลับสุดยอด 2 อย่างของผมคือ statement แสดงความเคลื่อนไหวทางการเงิน(ที่ดูเหมือนไม่ค่อยอยากจะเคลื่อนไหวสักเท่าไร) และใบรับรองความเป็นข้าราชการ

คุณเชื่อไหม? ผมถูกมองด้วยสายตาดูแคลนแทบจะทันทีที่ถามว่า " ขอ statement ต้องทำอย่างไรบ้างครับ? ใช้เวลากี่วันถึงจะได้? เสียค่าใช้จ่ายเท่าไร?" จริงอยู่คงมีสยามชนหลายร้อยล้านคนรู้กรรมวิธีในการได้มาซึ่งเอกสารสำคัญเหล่านี่ แต่ที่ผมไม่รู้มันไม่ได้แปลว่าผิดนี่ครับ เสียเวลาในการข่มจิตไม่ให้โทสะจริตเข้าครอบงำอยู่ชั่วครู่ ก็นอบน้อมรับฟังอรรถาธิบายจากพนักงานรุ่นลายครามซึ่งคงเล็งเห็นแล้วว่า ถึงจะเหยียดหยามคนโง่อย่างผมก็คงไม่เกิดอะไรดีขึ้นมา

จะว่าไปแล้วอาชีพขายบริการทุกอาชีพ ย่อมต้องพบปะผู้คนหลากหลายไล่เรียงไปตั้งแต่รากหญ้า รากฝอย รากแก้ว ลำต้น กิ่ง ก้าน ใบ ทำอะไรให้ถูกใจกลุ่มคนเหล่านี้ทั้งหมดคงเป็นเรื่องยาก ยิ่งคาดหวังให้เขาเข้าใจถึงกระบวนการ ระเบียบปฎิบัติ ในแต่ละหน่วยงาน ยิ่งยากส์ส์ส์ มั่กๆเข้าไปใหญ่

เคยเหมือนกันที่ปฎิบัติตัวดังเช่นพนักงานคนนั้น เวลามีคนไข้เข้ามาตรวจแล้วบอกว่าเจ็บคอ ผมก็ต้องส่องดูที่คอจริงไหม ว่ามันอักเสบหรือมีแผลหรือเปล่า ครั้นพอให้อ้าปากกว้างๆ คนเฒ่าคนแก่ทั้งหลายมักจะมีคราบน้ำหมากเปรอะเปื้อนเหมือนเพิ่งผ่านสมรภูมิเคี้ยวมาได้ไม่นาน ซ้ำร้าย บางคนยังมีศพหมาก ตามลิ้น ตามซอกฟัน ให้เห็นอีกด้วย หรือจะเป็นเด็กเล็กๆที่ทนรอตรวจนานไม่ได้ พ่อแม่มักจะปรนเปรอขนมนมเนยให้กินระหว่างนั่งรอ นี่ก็เต็มไปด้วยเศษอาหารเช่นกัน วันไหนอารมณ์ดีผมก็จะสอน ว่าคราวหลังให้บ้วนปากแปรงฟันให้เรียบร้อยก่อนมา รพ. แต่ถ้าวันไหนอารมณ์ บ่ จอย เกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมา เคยถึงกับว่าไปแรงๆว่า เรื่องง่ายๆแค่นี้ไม่รู้กันเลยหรือไง $#%^&*

นี่ถ้าไม่เจอกับตัวเองคงคิดไม่ได้แน่ๆ

ส่วนใบรับรองยิ่งแล้วใหญ่ กำชับหนักหนาว่าต้องเป็นภาษาอังกฤษ แต่ใบแรกที่ได้มากลับเป็นภาษาไทย!ครั้นพอไปโวยวายกับเจ้าหน้าที่ ก็เกิดอาการ งง ขนานใหญ่ "เราไม่เคยออกเป็นภาษาต่างด้าวมาก่อนค่ะ" "แล้วของเพื่อนผมล่ะ ไปได้มาจากดาวไหน" พร้อมกับยื่นตัวอย่างให้ดู!! เป็นอันว่าเข้าใจตรงกัน ผมจึงได้ถ่ายสำเนาตัวอย่างเก็บไว้ให้ลอก และนัดหมายวันเวลารับเป็นที่เรียบร้อย ใบที่สองเริ่มดูเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาหน่อย แต่จะให้ เพอร์เฟคต์ รึ ไม่มีทาง

"ลืมประทับตราครุฑที่รูปครับ" "เราไม่มีตราครุฑภาคภาษาอังกษค่ะ" อึ้งไปหนึ่งยก "เอ ผมว่าเป็นครุฑสันชาติไทยก็ได้นะครับ" "แต่ใบรับรองเป็นภาษาอังกฤษนะคะ" คราวนี้ได้ผลเกิดลังเลขึ้นมา ตัดสินใจโทรศัพท์ไปถามเพื่อนที่ผ่านวิกฤตการณ์เหล่านี้มาแล้ว ก็ได้รับคำตอบว่า "มึงปั้มไปเหอะ กูก็ปั้มครุฑไทยเหมียนกัน"
เป็นอันว่ากว่าจะได้ใบรับรองมาครอบครองต้องเสียทังเวลา เสียเงิน และเสียน้ำมันเบนซิล 91 ไปหลายลิตร

เฮ้อ! ถึงตอนนี้เห็นพ้องกับผมหรือยังครับ ว่าเราควรจะมีอาชีพในฝันแบบที่ว่ามาตั้งแต่ต้นเรื่องเสียที

september 14,2006
sirisak

1 comment:

DeeDee said...

ชั้นก็จะโกอเมกาเหมือนกัน ประมาณพย.นี้แหละถ้าเอกสารจากเมกามาทัน แต่ถ้าไม่ทัน ก็คงไม่ได้ไป >< ถ้าชั้นได้ไปก็มาเยี่ยมชั้นสิ